ฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์คืออะไร? แล้วทำไมถึงเป็นการเติมเต็มที่นิยมมากที่สุด

ฟิลเลอร์คืออะไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือ HA เป็นสารที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นเพื่อเลียนแบบ HA ที่อยู่ภายในเซลล์ผิวของเราตามธรรมชาติ ใช้สำหรับทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิวอย่างคอลลาเจน เพราะเมื่ออายุมากขึ้นสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงเหล่านี้ ก็จะสูญสลายไปตามกาลเวลา นอกจากการเติมเต็มเพื่อปรับรูปหน้าแล้ว คุณสมบัติของฟิลเลอร์ยังมาพร้อมการกักเก็บความชุ่มชื้น และปรับสภาพผิวให้องค์รวมผิวของเรามีความยืดหยุ่นแลดูอ่อนเยาว์มากขึ้นนั่นเอง

โดยฟิลเลอร์ถูกใช้อย่างแพร่หลายในวงกว้าง สามารถเติมเต็ม และปรับรูปหน้าได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นสารเติมเต็มที่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยสูง และหลายๆ ตัวยา ผ่านมาตรฐาน อย.ไทย 100% ซึ่งสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้

ใช้ฉีดแก้ปัญหาตรงไหนได้บ้าง?

ด้วยคุณสมบัติเด่นของตัวฟิลเลอร์ที่ปรับแต่งและเติมเต็มได้อย่างหลากหลายเพื่อให้รูปหน้าของเราสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

  • เติมเต็มร่องลึก เสริมชั้นผิว พร้อมปรับรูปหน้า
  • ปรับผิวแลดูเรียบเนียน มีน้ำมีนวล อ่อนเยาว์
  • ลดริ้วรอย และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
  • เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว กักเก็บความชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ

ขอบคุณภาพจาก : https://www.restylaneusa.com

เหตุนี้ฟิลเลอร์จึงสามารถฉีดได้หลายตำแหน่งตามความเหมาะสมจากการประเมินปัญหาผิวรายบุคคลตามดุลยพินิจของแพทย์

  • หน้าผาก                                                              
  • ขมับ
  • ใต้ตา
  • หน้าแก้ม
  • แก้มตอบ
  • จมูก
  • ปาก
  • คาง
  • กรอบหน้า
ตัวอย่างตำแหน่งต่างๆ ในการเติมเต็มด้วย Filler

เหตุนี้ฟิลเลอร์จึงสามารถฉีดได้หลายตำแหน่งตามความเหมาะสมจากการประเมินปัญหาผิวรายบุคคลตามดุลยพินิจของแพทย์

  • หน้าผาก                                                              
  • ขมับ
  • ใต้ตา
  • หน้าแก้ม
  • แก้มตอบ
  • จมูก
  • ปาก
  • คาง
  • กรอบหน้า

ยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. ไทย 

1. ฟิลเลอร์ Juvederm


เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา ที่ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ผลิต Botox Allergan เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความไว้วางใจทั่วโลกจากแพทย์ในการเติมเต็มปรับรูปหน้ามาอย่างยาวนาน รวมถึงผ่านการรับรองจาก อย.อเมริกา (U.S. FDA) และ อย.ไทย (Thai FDA) โดยมีความแตกต่างจากฟิลเลอร์สัญชาติอื่นๆ ตรงที่ Juvederm มีการผลิตด้วยเอกสิทธิ์รูปแบบเฉพาะถึง 2 เทคโนโลยี คือ Hylacross และ Vycross Technology อีกทั้งการดีไซน์ไซริงค์ที่บรรจุฟิลเลอร์มาให้ใช้งานง่ายต่อการฉีด แพทย์จึงสามารถควบคุมปริมาณการใช้ยาได้ดี ลดผลข้างเคียง และเพิ่มความปลอดภัยแก่คนไข้ได้อย่างมาก

ปัจจุบัน ฟิลเลอร์ Juvederm มีทั้งหมด 7 รุ่น ที่ผ่านมาตรฐานอย. ไทย ดังนี้

  • Volite (เทคโนโลยี Vycross เป็นรุ่นที่มีความละเอียด นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา หรือเก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ฉ่ำวาว อยู่ได้นานถึง 8-12 เดือน) นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา หรือเก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น
  • Volbella (เทคโนโลยี Vycross เป็นรุ่นที่มีความละเอียดมากที่สุด ใช้ฉีดในบริเวณที่มีผิวบางมากๆ เช่น ใต้ตา ปาก รวมถึงหน้าผาก อยู่ได้นานถึง 12 เดือน)
  • Volift (เทคโนโลยี Vycross เป็นรุ่นที่มีความละเอียดมาก ใช้ฉีดใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องริ้วรอยที่ไม่ลึกมาก รวมถึงเติมเต็มปากอวบอิ่ม อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Voluma (เทคโนโลยี Vycross เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยบนใบหน้าเยอะๆ และต้องการปรับรูปหน้า ใต้ตา ร่องแก้ม คาง และอยู่ได้นานถึง 18 เดือน)
  • Volux (เทคโนโลยี Vycross โมเลกุลหนาแน่น เหมาะกับการฉีดคาง ใต้ตา ขมับ และร่องแก้มชั้นลึก อยู่ได้นาน 18-24 เดือน)
  • Ultra XC (เทคโนโลยี Hylacross เหมาะสำหรับคนที่มีริ้วรอย หรือร่องลึก อยู่ได้นานถึง 12 เดือน)
  • Ultra Plus XC (เทคโนโลยี Hylacross ใช้ฉีดบริเวณที่เน้นความฟูมากๆ หรือบริเวณที่คอลลาเจนหายไปเยอะๆ เช่น ขมับ ร่องแก้ม อยู่ได้นานถึง 12 เดือน)

2. ฟิลเลอร์ Restylane

เป็นฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน อีกหนึ่งแบรนด์ฟิลเลอร์ชั้นนำระดับโลก ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะของฟิลเลอร์อย่าง NASHA Techology และ OBT Technology คือ 2 เทคโนโลยีสำคัญที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูง ซึ่งตอบโจทย์ครบทุกปัญหาผิวที่คุณต้องการได้ รวมถึงผ่านมาตรฐาน U.S. FDA และ Thai FDA อีกด้วย

ปัจจุบัน ฟิลเลอร์ Restylane มีทั้งหมด 8 รุ่น ที่ผ่านมาตรฐานอย. ไทย ดังนี้

  • Lyft (เทคโนโลยี NASHA มีส่วนผสมของยาชา ใช้ฉีดเพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้า บริเวณแก้มส้ม จมูก ขมับ หรือคาง เนื่องจากมีความคงตัวสูง อยู่ได้นานถึง 12 เดือน)
  • Classic (เทคโนโลยี NASHA มีส่วนผสมของยาชา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ริมฝีปาก รวมถึงแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก อยู่ได้นาน 8-12 เดือน)
  • Vital (เทคโนโลยี NASHA มีส่วนผสมของยาชา โมเลกุลเล็ก ใช้เติมน้ำให้ผิวหรือฉีดใตต้า อยู่ได้นาน 3-6 เดือน)
  • Vital Light (เทคโนโลยี NASHA มีส่วนผสมของยาชา โมเลกุลเล็ก เนียนละเอียด ใช้เติมน้ำให้ผิวหรือฉีดใต้ตา อยู่ได้นาน 3-6 เดือน)
  • Volyme (เทคโนโลยี OBT มีส่วนผสมของยาชา เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาแก้มตอบขมับตอบ อยู่ได้นานถึง 18 เดือน)
  • Defyne (เทคโนโลยี OBT ใช้ฉีดเติมเต็มในส่วนที่กระดูกยุบตัวมาก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ฉีดเสริมโหนกแก้ม อยู่ได้นานถึง 18 เดือน)
  • Refyne (เทคโนโลยี OBT มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่มและยืดหยุ่นที่สูง ฉีดในผิวชั้นบางๆ หรือริ้วรอยเล็กๆ เช่น รอบดวงตา อยู่ได้นานถึง 12 เดือน)
  • Kysse (เทคโนโลยี OBT เนื้อละเอียดแต่มีความคงตัว ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นานถึง 12 เดือน)

3. ฟิลเลอร์ Belotero

เป็นฟิลเลอร์จากสวิสเซอร์แลนด์หรือที่หลายๆ คนคงเคยเห็นกล่องผลิตภัณฑ์ที่มีสีสันสดใสนิยมเรียกจนติดปากว่า Colorful Filler จุดเด่นของฟิลเลอร์ Belotero ที่มาพร้อมทั้งหมด 4 รุ่น ด้วยกัน ใช้ฉีดเพื่อปรับแก้ปัญหาแตกต่างกัน อีกทั้งราคาย่อมเยาว์แต่คุณภาพดีด้วยนั่นเอง

  • Belotero Volume ฟิลเลอร์กล่องม่วง เนื้อยืดหยุ่นแต่คงตัวสูง ใช้ฉีดเพื่อแก้ปัญหาใบหน้าตอบ เติมขมับ คาง โหนกแก้มและแก้มส้ม เป็นต้น ซึ่งอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
  • Belotero Intense ฟิลเลอร์กล่องชมพู ด้วยเนื้อที่มีความคงตัวสูง จึงเหมาะแก่การฉีดยกกระชับใบหน้า เติมเต็มปาก ร่องแก้มลึกนั่นเอง อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
  • Belotero Soft ฟิลเลอร์กล่องเหลือง มีเนื้อเนียนละเอียดมากที่สุดในทุกรุ่น เน้นฉีดใต้ตา ผิวชั้นตื้น และริ้วรอยเล็กๆ อยู่ได้นานประมาณ 6 - 12 เดือน
  • Belotero Balance ฟิลเลอร์กล่องส้ม เน้นแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลาง เช่น ระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม ร่องน้ำหมากหรือใต้ตาในผิวชั้นลึก และอยู่ได้นานประมาณ 12 - 18 เดือน

4. ฟิลเลอร์ Perfectha

เป็นฟิลเลอร์สัญชาติฝรั่งเศส มาพร้อมเทคโนโลยีการเติมเต็มแบบ E-Brid Technology ในการปรับรูปทรงของใบหน้า ซึ่งโครงสร้างของโมเลกุลฟิลเลอร์แบรนด์นี้ จะมีแข็งแรงเป็นพิเศษจึงให้ความทนทานจากสิ่งเร้าแวดล้อม โดยสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีเลย โดยมีรุ่นที่ผ่านมาตรฐานอย. ไทย ด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น ดังนี้

  • Derm เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณผิวหนังชั้นกลาง เติมริ้วรอยลึกๆ หรือริ้วรอยหว่างคิ้ว รวมถึงช่วยยกมุมปากหรือเติมเต็มริมฝีปาก อยู่ได้นาน 6 - 12 เดือน
  • Deep เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณผิวหนังชั้นลึก เติมร่องและริ้วรอยลึก เช่น ร่องแก้ม, คาง, ขมับ อยู่ได้นาน 8 - 12 เดือน
  • Sub Skin เหมาะกับการเติมเต็มในคาง ขมับยุบ ขมับตอบ เป็นต้น อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
  • Complement เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็มผิวชั้นตื้นๆ เพื่อช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ หรือเป็น Skin Booster อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

5. ฟิลเลอร์ Revanesse

เป็นฟิลเลอร์สัญชาติแคนนาดา กับเทคโนโลยีการผลิตอย่าง Thixofix Technology ด้วยนวัตกรรมนี้ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง และทำให้การเชื่อมโมเลกุลของ Hyaluronic Acid มีความยืดหยุ่นอย่างเหมาะสม คงประสิทธิภาพได้นาน ซึ่งในประเทศไทยแบรนด์ Revanesse มีเพียงแค่รุ่นเดียวที่ได้รับการรับรองว่าผ่านมาตรฐาน Thai FDA 

  • Ultra เนื้อละเอียด ยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเติมร่องลึก เช่น คาง แก้มตอบ ขมับ แก้มส้ม และอยู่ได้นาน 6 - 12 เดือน

6. ฟิลเลอร์ Neuramis

จากประเทศเกาหลี นำเข้าโดยบริษัท Medyceles ประเทศไทย ซึ่งแน่นอนว่าผ่านมาตรฐานอย. ไทย โดยเนื้อฟิลเลอร์มีคุณภาพในการเติมเต็มได้ดี คงประสิทธิภาพได้นาน และที่สำคัญเลย คือ มาพร้อมความคุ้มค่า คุ้มราคาจึงทำให้เป็นที่นิยมในวงกว้างอย่างมาก

ปัจจุบัน ฟิลเลอร์ Neuramis มีทั้งหมด 3 รุ่น ที่ผ่านมาตรฐานอย. ไทย ดังนี้

  • Deep เป็นรุ่นแรกที่เข้ามาในไทย และไม่มียาชาผสม เนื้อมีความแน่นปานกลาง สามารถเติมเต็มร่องต่างๆ บนใบหน้าได้ดี เช่น ขมับ, คาง, แก้มตอบ อยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน
  • Deep Lidocaine เป็นรุ่นที่เพิ่มยาชาผสมเข้ามา เนื้อมีความแน่นปานกลาง ใช้เติมเต็มร่องต่างๆ บนใบหน้าได้ดี อยู่ได้นาน เช่น ขมับ, คาง, แก้มตอบ  6 – 8 เดือน
  • Volume Lidocaine รุ่นล่าสุดที่ผ่านมาตรฐานอย. ไทย มาได้ไม่นานแต่คุณภาพดีสุดๆ ด้วยเนื้อละเอียดแน่นที่สุดแต่กลืนกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีส่วนผสมของยาชา และสามารถเติมได้ทุกจุดบนใบหน้า

7. ฟิลเลอร์ Yvoire

ฟิลเลอร์น้องใหม่สัญชาติเกาหลี ผลิตโดยบริษัท LG Chem บริษัทเคมีที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ เรียกได้ว่าคุณภาพพรีเมี่ยมเทียบเท่ากับแบรนด์ยุโรปเลยค่ะ ด้วยนวัตกรรมในการผลิตอย่าง HICE Concentration Equalized ช่วยให้โมเลกุลของฟิลเลอร์มีการยึดเกาะที่แน่น เรียบเนียน ไม่เกิดเป็นก้อนหรือเป็นคลื่นเมื่อสัมผัส ให้ความปลอดภัยสูง และประสิทธิภาพการคงตัวในชั้นผิวได้นานประมาณ 6-8 เดือน

ปัจจุบัน ฟิลเลอร์ Yvoire มีทั้งหมด 3 รุ่น ที่ผ่านมาตรฐานอย. ไทย ดังนี้

  • Yvoire Volume Plus เหมาะสำหรับใช้ฉีดช่วงกลางใบหน้า เช่น เติมแก้มส้ม ขมับ กระชับบริเวณกรอบหน้า แก้มส้ม หรือคาง
  • Yvoire Contour เหมาะสำหรับใช้ฉีดเติมเต็มเพื่อสร้างมิติให้กับใบหน้า เช่น โหนกแก้ม ร่องแก้ม คาง และกรอบหน้า
  • Yvoire Classic Plus เหมาะสำหรับใช้ฉีดบริเวณใต้ตาชั้นลึก หน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ปาก รวมถึงผิวชั้นตื้นเพื่อเติมน้ำให้ผิว

8. ฟิลเลอร์ e.p.t.q.

ฟิลเลอร์น้องใหม่ล่าสุดสัญชาติเกาหลี ใช้กระบวนการผลิตแบบ ZEEP Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความปลอดภัย ลดผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ และไร้สารตกค้างในร่างกาย จึงมีความปลอดภัยที่สูงมาก

ปัจจุบัน ฟิลเลอร์ e.p.t.q. มีทั้งหมด 3 รุ่น ที่ผ่านมาตรฐานอย. ไทย ดังนี้

  • S100 เป็นรุ่นที่มีเนื้อละเอียด บางเบา และยืดหยุ่นมากที่สุด จึงเหมาะสำหรับริ้วรอยต่างๆ รวมถึงหน้าผาก ขมับ ใต้ตา และปาก ซึ่งอยู่ได้นานถึง 6 เดือน
  • S300 เป็นรุ่นที่มีเนื้อกลางๆ ไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป คงตัวสูงไม่ลื่นไหล เหมาะสำหรับใช้ฉีดบริเวณหน้าผาก ขมับ แก้ปัญหาแก้มตอบ ร่องแก้ม และปาก อยู่ได้นานถึง 9 เดือน
  • S500 เป็นรุ่นที่มีโมเลกุลหนาและแน่นที่สุด เหมาะสำหรับฟื้นฟูบริเวณผิวที่มีปัญหาหนักมากๆ เช่น คาง ร่องใต้ตาลึก และกรอบหน้า เป็นต้น อยู่ได้นานถึง 12 เดือน

ในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อการปรับรูปหน้า จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเพื่อผลลัพธ์ที่ประทับใจมาก่อนเสมอ ถึงแม้ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะเป็น Hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่มีเทคโนโลยี และขั้นตอนการผลิตแตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ อีกทั้งเทคนิคและการฉีดต้องอยู่ภายใต้การคุมคุม ดูแล โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สูง จะดีกว่าไหมถ้าคุณเลือกสวยอย่างมั่นใจได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส เพราะเราไม่ได้มีเพียงแค่รีวิวหรือบทความดีๆ เท่านั้น แต่เราคัดมาแล้วว่าสวยชัวร์จากตัวจริงให้ BEAUT ช่วยดูแลคุณ

โปรโมชั่นแนะนำ

ดาวน์โหลด BEAUT

สวยชัวร์ ต้องตัวจริง (ไม่จกตา)

บทความอื่น ๆ