ชวนปรับ 7 พฤติกรรมแก้ปวดท้องประจำเดือน

“อาการปวดประจำเดือน” ปัญหาโลกแตกที่ทำให้สาวๆ หลายท่านถึงกับโอดครวญออกมากันเลยทีเดียว BEAUT ขอชวนสาวๆ ทุกคนมาปรับพฤติกรรมง่ายๆ เพียง 7 ข้อ เพื่อช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน จะมีอะไรบ้าง? อ่านพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

‍

ประจำเดือนคืออะไร เกิดจากสาเหตุไหนกันนะ?‍

ประจำเดือนหรือรอบเดือน (Menstruation) คือ น้ำเลือด และเนื้อเยื่อต่างๆ ที่หลุดลอกจากโพรงมดลูกหรือเยื่อบุมดลูก ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายที่มีความสัมพันธ์กับการตกไข่ เป็นอาการที่แสดงความพร้อมเข้าสู่การเจริญพันธุ์ โดยฮอรโมน Estrogen (เอสโตรเจน) และ Progesterone (โปรเจสเตอโรน) จะทำให้เยื่อบุมดลูกหนาขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนจากการปฏิสนธิ เมื่อไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้นเยื่อบุโพรงมดลูกเหล่านั้นก็จะหลุดลอกออกมากลายเป็น ‘ประจำเดือน’ นั่นเอง

‍

‍

อาการปวดประจำเดือนคืออะไร?‍

‘อาการปวดประจำเดือน’ เป็นอาการปวดบริเวณท้องน้อยก่อนมีประจำเดือน 1 - 2 วัน และระหว่างมีประจำเดือนในช่วงวันแรกๆ เกิดจากฮอรโมนที่มีชื่อว่า Prostaglandin (โพรสตาแกลนดิน) ที่อยู่ในกล้ามเนื้อบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งก่อให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อบีบตัว และหดเกร็ง บางรายอาจมีอาการปวดหน่วงหรือปวดเกร็งเล็กน้อย แต่ทว่าบางรายหากมีการหลั่งของสารนี้ในปริมาณที่มากยิ่งเพิ่มความรุนแรงของอาการบีบรัดทำให้ปวดท้องประจำเดือนมากยิ่งขึ้น รวมถึงอาการต่างๆ ตามมา เช่น ปวดหลังส่วนล่าง คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ และปวดศีรษะ เป็นต้น

‍

7 วิธีปรับพฤติกรรมลดอาการปวดประจำเดือน

• พักผ่อนให้เพียงพอ หนึ่งในการปรับพฤติกรรมที่สำคัญมากที่สุด เพราะการพักผ่อนที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนสึกหรอ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายให้กลับมาดียิ่งขึ้น

‍

• ประคบร้อนบริเวณท้องน้อย โดยใช้ถุงน้ำร้อนหรือกระเป๋าน้ำร้อน ถ้าหากไม่มีก็สามารถใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำร้อนแล้วบิดหมาดๆ มาวางประคบบริเวณท้องน้อย รวมถึงสามารถนวดคลึงเบาๆ เพื่อบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนที่กล้ามเนื้อบริเวณท้องน้อยบีบรัดให้คลายลง

‍

• จัดการความเครียด และภาวะทางอารมณ์ โดยเฉพาะความเครียดสะสมจะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อบริเวณทองน้อยบีบรัดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจำเป็นต้องหากิจกรรมคลายเครียดที่ชื่นชอบเพื่อผ่อนคลายภาวะทางอารมณ์ ไม่ให้อาการปวดท้องประจำเดือนรุนแรงมากขึ้น เช่น ใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่นจนเกินไปแล้วนอนตะแคงสบายๆ อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นดนตรี เป็นต้น

‍

• จิบหรือดื่มน้ำอุ่น และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะสารคาเฟอีนจะส่งผลทำให้อาการปวดท้องประจำเดือนแย่ลง โดยคาเฟอีนจะทำให้น้ำในร่างกายคั่ง มีอาการตัวบวม และอาจทำให้ปวดศีรษะมากขึ้นนั่นเอง จึงควรหลีกเลี่ยง และหาน้ำอุ่นสะอาดจิบระหว่างวันเพื่อผ่อนคลาย และเติมน้ำให้ร่างกายเพื่อความสดชื่น

‍

• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะการทานผัก และผลไม้ ที่มีส่วนผสมของ Vitamin E, Omega-3 Fatty Acids, Vitamin B1, Vitamin B6 หรือ Magnesium เพราะจากการศึกษาพบว่าสารอาหาร และวิตามินเหล่านี้จะช่วยลดการปวดประจำเดือนได้ดี

‍

• ออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายในช่วงที่เป็นประจำเดือน ควรออกในระดับเบาๆ เช่น การเล่นโยคะ เพื่อเป็นการลดอาการปวดหลังช่วงล่าง และลดอาการปวดท้องประจำเดือน เพราะการเคลื่อนไหวแบบเพ่งสมาธิไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย จะช่วยเพิ่มการยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

‍

• การใช้ยาแก้ปวดต่างๆ เช่น ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal Anti-inflamatory Drugs หรือ NSAIDs) ไม่ว่าจะเป็นแอสไพริน พาราเซตามอล หรือยาไอบูโพรเฟน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สาวๆ ส่วนใหญ่ชอบทำ เพราะได้ผลชะงัก ลดอาการปวดให้ทุเลาลงได้จริง แต่ก็ต้องรับประทานยาในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย เช่น ทานยาแก้ปวดหนึ่งครั้งก่อนวันที่คาดว่าน่าจะเป็นประจำเดือน เพื่อช่วยบรรเทาอาการในวันนั้นไม่ให้รุนแรงได้

‍

และทั้งหมด 7 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยบรรเทาให้อาการปวดท้องประจำเดือนทุเลาลงได้ ซึ่งเรานำมาฝากกันในครั้งนี้ค่ะ แม้ว่าอาการปวดเหล่านี้จากการเป็นประจำเดือนจะเป็นเรื่องปกติสำหรับสาวๆ แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจไปนะคะ เพราะในอาการปวดเหล่านี้อาจเป็นมากกว่าการปวดประจำเดือนทั่วๆ ไป หากพบสัญญาณผิดปกติอย่าลืมพบแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยน้า~

‍

สวยชัวร์ ต้องตัวจริง โหลด BEAUT ได้แล้วที่ 

ระบบ IOS : https://apple.co/3dCcGgr 

ระบบ ANDROID : https://bit.ly/3LASLe9