หมวดอื่น ๆ

How to จัด Skincare Routine ใช้ให้น้อยแต่ผิวดีมาก

สกินแคร์มีมากมายหลากหลายประเภท ซึ่งปัจจัยในการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมักมาพร้อมค่าใช้จ่าย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าผิวของเราเหมาะกับสกินแคร์ตัวไหน? เลือกอะไรถึงคุ้มค่าที่สุด? ไขข้อข้องใจไปพร้อมๆ กัน กับคำถามที่สาวๆ อยากรู้ จะได้จัดสกินแคร์ได้อย่างถูกต้องเพื่อให้ผิวของเราดูดีมากที่สุด!

ต้องรู้ก่อนว่าสภาพผิวของเราเป็นแบบไหน?

อันดับแรกเราต้องรู้จัก และเข้าใจถึงสภาพผิวของตนเองก่อนว่าจัดอยู่ในประเภทไหน ซึ่งโดยทั่วไป ผิวของคนเราสามารถแบ่งประเภทของผิวตามสภาพ และลักษณะ ได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน

  • ผิวแห้ง (Dry Skin) เป็นผิวที่มีภาวะขาดความชุ่มชื้น โดยมีลักษณะละเอียด แห้งกว่าปกติ บอบบาง และเกิดริ้วรอยได้ง่าย บางรายอาจมีอาการแสบ แดง คัน ตามมาได้ ซึ่งสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์ เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว และรักษาสมดุลของผิวให้มีความชุ่มฉ่ำ อิ่มน้ำ มากยิ่งขึ้น

  • ผิวมัน (Oily Skin) เป็นผิวที่มีภาวะการผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวมากกว่าปกติ มองเห็นรูขุมขนได้ชัดเจน และมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อบางเบา ซึมง่าย กลืนไปกับผิว เช่น โลชั่น หรือ เซรั่ม เป็นต้น และควรทำความสะอาดผิวให้หมดจดเพื่อลดการอุดตันของผิว

  • ผิวผสม (Combination Skin) เป็นสภาพผิวที่มีภาวะสำคัญของทั้งผิวมัน และผิวแห้ง โดยมีสองจุดด้วยกัน คือ ผิวบริเวณ T-zone (หน้าผาก จมูก และคาง) จะมีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ และผิวบริเวณ U-zone (รอบดวงตาและแก้ม) จะมีอาการแห้งขาดน้ำ หรือเกิดการลอกเป็นขุยขึ้นได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อบางเบา ซึมง่าย กลืนไปกับผิว เช่น โลชั่น หรือ เซรั่ม เป็นต้น และควรทำความสะอาดให้หมดจดเพื่อลดการอุดตันของผิว

  • ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) เป็นภาวะของผิวที่เกิดการระคายเคืองได้ง่าย โดยส่วนใหญ่มักจะมาจากอาการผิวแห้ง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองที่ผิวได้ง่ายมาก สามารถเกิดได้จาก 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้ ปัจจัยภายใน เช่น ความเครียด, การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน, แพ้เหงื่อ เป็นต้น ปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะทางอากาศ, แสงแดง, การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น สำหรับสภาพผิวบอบบางแพ้ง่าย เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และไม่ระคายเคืองผิว ซึ่งต้องผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง รวมถึงเน้นสารสกัดที่เป็นธรรมชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองผิวนั่นเอง

เมื่อเราทราบ และเข้าใจในผิวของตนเองแล้ว การเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิวก็จะตรงตามปัญหา และสภาพผิวได้มากยิ่งขึ้น

จัด Skincare Routine ให้เข้ากับผิวของเรา!

หลายความเชื่อที่มักคิดว่ายิ่งประโคมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากเท่าไหร่ ยิ่งดีต่อผิวมากเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วอาจไม่ใช่อย่างที่คิด การจัดลำดับการใช้สกินแคร์ที่ดีนั้น ไม่ควรใช้เยอะมากเกินไปในครั้งเดียว เพราะอาจก่อให้เกิดการอุดตันจากการทับถมของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถซึมลงสู่ผิวได้ และปัญหาสิวผิวมันก็จะตามมา ดังนั้นจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ลดจำนวนความซับซ้อน และจัดลำดับให้ถูกต้อง โดยตัวอย่างการจัด Skincare Routine ขั้นพื้นฐานที่เราขอแนะนำมีดังนี้

Morning Routine สกินแคร์เสริมผิวพร้อมปกป้องในช่วงกลางวัน

  • Step 1 : ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสูตรอ่อนโยน และสามารถผลัดเซลล์ผิวอ่อนๆ โดยไม่ระคายเคือง และจะต้องขจัดความมันส่วนเกิน ทำความสะอาดอย่างหมดจด แต่ยังให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ไม่แห้งตึง หลังล้างหน้าไม่ควรเช็ดด้วยผ้าขนหนู ควรซับเบาๆ ด้วยกระดาษทิชชู่หรือผ้าสำหรับเช็ดหน้า เพื่อป้องกันปัญหาผิวระคายเคืองจากการถูกเสียดสีตามมา

  • Step 2 ผลิตภัณฑ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยจะต้องเป็น ผลิตภัณฑ์ที่มี Antioxidants และ Anti-inflammatory ซึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยปกป้อง ลดการอักเสบ เซลล์ผิวที่ถูกทำร้ายจากมลภาวะจากสิ่งแวดล้อมที่ผิวเผชิญในทุกๆ วัน เช่น วิตามิน C, วิตามิน E หรือวิตามิน B3 เป็นต้น

  • Step 3 ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว การเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว เพื่อไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำระหว่างวัน อีกทั้งยังช่วยเสริมผิวชั้นบนสุดให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

  • Step 4 ปกป้องผิวจากแสงแดด เพราะแดดเป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมา ไม่ว่าจะฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมถึงทำให้ใบหน้าแก่ก่อนวัย โดยจะต้องใช้กันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป รวมถึงค่า PA+++ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ในแสงแดด

Night Routine สกินแคร์ฟื้นฟูพร้อมบำรุงผิวในช่วงกลางคืน

  • Step 1 ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมากที่สุดในช่วง Night Routine เพราะในช่วงเช้าผิวของเราเจอทั้งมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม เช่น แสงแดด ฝุ่น ควัน ฯลฯ ดังนั้นจึงต้องทำความสะอาดให้หมดจด โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนด้วย Cleanser หรือ Cleansing หรือจะ Double Clean เพื่อความสะอาดอย่างล้ำลึกให้ผิวพร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่
  • Step 2 ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เมื่อผิวสะอาดแล้ว จำเป็นต้องเติมเต็มความชุ่มชื้นเพื่อปรับสมดุล และเสริมโครงสร้างผิวของผิวชั้นบนให้แข็งแรง

จากที่แนะนำไปในข้างต้นอาจจะสังเกตได้ว่า Night Routine มีขั้นตอนการบำรุงผิวที่น้อยกว่าในช่วง Morning Routine เป็นเพราะผิวของเราไม่ได้เจอมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม แต่ก็สามารถเสริมด้วยการบำรุงผิวเพื่อแก้ปัญหาผิวที่กังวลใจในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยหรือผลัดเซลล์ผิว ที่จะช่วยกระตุ้นเซลล์ในการฟื้นฟูผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว โดยมีส่วนผสมต่างๆ เช่น เรตินอล (Retinol) ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว หรือ เอเอชเอ (AHA) และบีเอชเอ (BHA) ช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน

ซึ่งการจัด Skincare Routine ที่ทางเราได้ยกตัวอย่างไปนั้น เป็นเพียงพื้นฐานขั้นต้น เพื่อให้มือใหม่ที่เริ่มการดูแลผิวหรือผู้ที่ยังเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้ไม่ตรงกับปัญหาที่ต้องการแก้ ได้ศึกษาเป็นแนวทางเพื่อคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับผิวเรามากที่สุด ถึงอย่างนั้นไม่เพียงแค่การดูแลผิวจากการจัด Skincare Routine เท่านั้น แต่ยังต้องมาพร้อมการดูแลในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ พักผ่อนให้เพียงพออีกด้วย สำหรับใครอยากได้ Tips ความงามดีๆ สามารถโหลด BEAUT ให้เป็นเพื่อนคู่ใจในการดูแลผิวได้เลย

โปรโมชั่นแนะนำ

ดาวน์โหลด BEAUT

สวยชัวร์ ต้องตัวจริง (ไม่จกตา)

บทความอื่น ๆ