Thermage คืออะไร ทำไมดารา เน็ตไอดอล แม้แต่คุณหมอถึงเลือกทำ

ทำความรู้จักกับ Thermage

Thermage เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งจะใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (High Radio Frequency) ชนิดขั้วเดียว (Monopolar) ที่ผ่านมาตรฐานอย. ไทย พลังงานเหล่านั้นจะถูกบีบอัดจนเกิดเป็นความร้อนสูงแต่ไม่ทำร้ายผิว ซึ่งส่งพลังงานลงลึกสู่ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ผิว เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับหรือมีไขมันใต้ชั้นผิวค่อนข้างมาก เช่น แก้มเยอะ เหนียงย้อย รวมถึงปัญหาเรื่องเซลลูไลท์ และผิวเปลือกส้ม ถึงแม้ตัวพลังงานจะไม่สามารถลงลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ที่ Ultherapy หรือ HIFU ทำได้ แต่บอกเลยว่าในการลดไขมันใต้ชั้นผิว Thermage ก็ทำได้ดีกว่ามากเช่นกัน

‍

ผู้ที่เหมาะกับการทำ Thermage

• ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวเริ่มห้อย ไม่กระชับ

• ผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบนใบหน้ามากเกินไป
• ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาหรือถุงใต้ตาชัดเจน และริ้วรอยเล็กๆ ทั่วใบหน้า
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียน กระชับ แลดูอ่อนเยาว์ และสดใส

‍

Thermage ผลิตมาทั้งหมด 4 Generation ด้วยกัน ซึ่งในปัจจุบันหรือรุ่นที่ 4 จะมีชื่อเรียกว่า Thermage FLX ซึ่งเป็นเครื่อง Thermage รุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยคำว่า ‘FLX’ ย่อมาจาก ‘FASTER ALGORITHM EXPERIENCE’ ที่มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ดังนี้

F : FASTER คือ การปล่อยพลังงานลงใต้ชั้นผิวที่เร็วมากขึ้น โดยมีความเร็วเพิ่มขึ้นถึง 25% ทำให้ได้ผลดีต่อการทำในแต่ละครั้ง เนื่องจากใช้จำนวนช็อตที่น้อยลงแต่ว่าในแต่ละช็อตมีประสิทธิภาพที่แม่นยำมากขึ้นนั่นเอง

L : ALGORITHM คือ การเลือกใช้หัวทิป (Total Tip) แบบใหม่ (สีม่วง) ทำให้ยิงพลังงานลงใต้ชั้นผิวได้ลึกกว่ารุ่นก่อนๆ มากถึง 4.7 มิลลิเมตร

X : EXPERIENCE คือ การได้รับประสบการณ์ระหว่างทำการรักษาที่สบายมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยระบบ Pre and Post Cooling ช่วยป้องกันไม่ให้อุณหภูมิใต้ผิวเกิดความร้อนสะสมเกินไป ซึ่งลดโอกาสการเกิดความระคายเคืองหรือปัญหาผิวไหม้ได้อย่างดี

‍

3 จุดเช็ก! Thermage เครื่องแท้ มีอะไรบ้างให้สังเกต

• มองหาสัญลักษณ์เครื่องแท้ หรือเช็กที่ตัวเครื่องว่ามีสติกเกอร์หรือไม่
• สังเกตุโล่ และใบรับรอง ที่ออกโดย SOLTA MEDICAL
• หัว Tip รุ่นใหม่จะต้องมีสีม่วง และแกะกล่องใหม่ทุกครั้ง

‍

การเตรียมตัวก่อนทำ และดูแลตัวเองหลังทำ Thermage

การที่จะทำ Thermage ให้ได้ผลดีไม่ใช่แค่เพียงเทคโนโลยีทันสมัยเท่านั้น แต่ยังต้องมาพร้อมกับการเตรียมตัวก่อน และหลังของคนไข้ที่ทำการรักษาด้วยนะคะ ข้อนี้เป็นจุดที่สำคัญมากๆ ที่จะทำให้ผลลัพธ์การรักษาได้ผลดีที่สุด

ก่อนทำการรักษา

1. พักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมผิวให้ผ่อนคลายก่อนการเริ่มรักษา
2. เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพบแพทย์ ควรแจ้งปัญหาที่กังวล เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์การรักษาได้อย่างตรงจุด
3. แจ้งโรคประจำตัวหรือยาประจำตัวที่ต้องทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบ เนื่องจากการรักษาด้วย Thermage อาจต้องงดยาบางประเภทล่วงหน้า
4. งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหรือการสครับผิวเพื่อป้องกันการระคายเคืองขณะทำการรักษาด้วย Thermage

‍

หลังทำการรักษา

1. งดการทำหัตถการเกี่ยวกับผิว เช่น การเลเซอร์ขน การฉีดสารต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ รวมถึงการทำทรีตเมนต์ เช่น สปาผิว ขัดผิว ประมาณ 1- 2 สัปดาห์หลังรับบริการ Thermage
2. งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เพื่อเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้การกระตุ้นคอลลาเจนผิวเสื่อมตัวเร็ว

‍

ความแตกต่างระหว่าง Thermage, Ulthera และ HIFU

Thermage เป็นการปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุลงสู่ชั้นใต้ผิวระดับ Dermis หรือชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของไขมัน เพื่อสลายไขมันส่วนเกินสะสม จึงส่งผลให้ผลลัพธ์ของผิวมีความแน่น และเฟิร์มมากขึ้น

Ulthera คือ การปล่อยพลังงานอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงลงสู่ใต้ชั้นผิวหนัง ในระดับ SMAS ช่วยให้ผิวหน้ายกกระชับมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอยตื้นๆ ทั่วใบหน้าได้อีกด้วย

HIFU ใช้เทคโนโลยีในการยกกระชับคล้ายกัน และลงลึกถึงชั้นผิวหนังระดับ SMAS เช่นเดียวกับ Ulthera แต่ขนาดของจุด Focus ที่ส่งพลังงานลงไป HIFU จะมีขนาดเล็กกว่า Ulthera อย่างมาก

‍

หากต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวมีมิติควรเลือก Ulthera และ HIFU ส่วนผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมในชั้นผิวมากจะเหมาะกับการทำ Thermage มากกว่า แต่ถึงกระนั้นก็ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้รักษาว่าเทคโนโลยีชนิดใดเหมาะกับปัญหาของคนไข้มากที่สุด

‍